ตามข้อมูลของ Nielsen ปี 2562 ระบุว่า Value Proposition มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเซรั่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลสิว, ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย ที่มียอดขายเชิงมูลค่าเป็นอันดับ 1 ในประเทศ เทียบในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของผู้หญิง (Women Facial Moisturizer) และในกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง แบรนด์ Sis2Sis ทางบริษัทก็ปรสบความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ "ลิปสติกแบบซอง" ซึ่งเป็นการปรับแพ็คเกจจิ้งแบบใหม่ เหมาะสำหรับการเดินทาง และราคาจับต้องได้ เพียงแค่ราคา 49 บาท ซึ่งถือเป็นการจับตลาดแบบ Micro Scale ซึ่งเป็น Red Ocean ในปัจจุบัน ที่มา:
ลงทุนในการพัฒนาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง พร้อมพัฒนา Mobile Skin Analysis เพื่อเป็นเครื่องมือวิเคราะห์สภาพผิว ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวตามคำแนะนำผ่านการเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce ได้ทันที คาดว่าจะเริ่มใช้งานภายในปี 2564 ก่อนจะขยายการให้บริการไปยังประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามอีกด้วย
พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Rojukiss, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์ใหม่ Wonder Herb นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งการทำวิจัยตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภค พร้อมพัฒนาสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง 2. ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่องทางการขายตรงแก่ผู้บริโภค (Direct-to-consumer: D2C) ที่ช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการความสะดวกสบายด้วยการซื้อผ่านช่องทางโดยตรงกับแบรนด์ โดย ร่วมมือกับ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปี 2564 โดย KISS ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 3. ลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศ ใน 2 ประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะการเติบโตของช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) บริษัทฯ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัทท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีความรู้ความสามารถในการจัดจำหน่ายและทำการตลาดแบบ Omni-channel ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในอินโดนีเซีย นอกจากนี้จะเริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศเวียดนาม 4.
วาง 4 กลยุทธ์ ดันรายได้ 3, 000 ล้าน ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาโรจูคิส เติบโตต่อเนื่องปีละเกือบ 40% ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า จึงคาดหวังการเติบโตปีละ 20% โดยปี 2567 วางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 3, 000 ล้านบาท ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก 1. ขยายธุรกิจครอบคลุมกลุ่มสุขภาพและความงาม ผ่านแบรนด์แฟลกชิป "โรจูคิส" มีศักยภาพต่อยอด นวัตกรรมสู่สินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้คือ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมด้วยเทคโนโลยีเซรั่ม รวมทั้งทุกแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ จะออกสินค้าใหม่ 20-25 รายการต่อปี 2. พัฒนานวัตกรรมจากเทรนด์ผู้บริโภคกลุ่ม Urbanization ทำให้เข้าถึงได้สะดวกด้วยแพ็คเกจจิ้ง ราคา และช่องทางที่เหมาะสม 3. ขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุม ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และขยายช่องทางแบบ Direct-to-Consumer (D2C) เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ทั้งด้านการสื่อสาร นำเสนอนวัตกรรมใหม่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 4. วางเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย เป็น "แชมเปี้ยน ไทยแลนด์" และขยายธุรกิจใน 3 ประเทศ ปัจจุบันธุรกิจหลักคือ สกินแคร์ เป้าหมายอีก 4-5 ปีข้างหน้า รายได้หลักยังมาจากกลุ่มดูแลผิวหน้า แต่สัดส่วนอยู่ที่ 40-50% ที่เหลือจะกระจายไปยังสินค้าอื่น เช่น เมคอัพ เส้นผม เสริมอาหาร และช่องทางใหม่ D2C สัดส่วนอีก 35-40% และที่เหลือเป็นรายได้จากต่างประเทศ จากจุดเริ่มต้นแบรนด์เวชสำอางสัญชาติเกาหลี วันนี้ Rojukiss มาพร้อม New S-Curve ในตลาด SET เพื่อสร้างบริษัทความงามและสุขภาพที่เป็นของคนไทย กับเป้าหมายก้าวสู่บริษัทที่มีอายุนับ 100 ปี เช่นเดียวกับบริษัทระดับโลก
greatlakesbestonetire.com, 2024 | Sitemap